
การแบ่งระดับของการบริหารจัดการในสายงานโรงแรม
ในทุกหน่วยงานขององค์กรย่อมมีการจัดสรรค์แบ่งระดับการบริหาร เพื่อให้องค์กรของตนมีการทำงานที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้การบริหารงานในด้านต่างๆ สามารถดำเนินไปได้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องรอการสั่งการหรือการตัดสินใจจากผู้บริหารระดับสูงแต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งในสายงานโรงแรมเองก็มีการแบ่งระดับการบริหารจัดการหลายระดับ เพื่อให้การบริการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและดีที่สุด ดังนี้
1. Executive Committee (Top Management)
หมายถึง คณะผู้บริหารระดับสูง ส่วนมากมักจะเป็นระดับเจ้าของกิจการ หรือ หุ้นส่วน นโยบายการบริหาร หรือ แนวทางธุรกิจของโรงแรมในด้านต่างๆมักจะมาจากส่วนนี้
2. Department Head (Middle Management)
ผู้บริหารระดับหัวหน้าของแต่ละฝ่าย เช่น ระดับ Director, General Manager, Resident Manager จะมีบทบาทในการควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของแผนกต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามแนวนโยบายที่ได้รับมากจากคณะผู้บริหารระดับสูงวางไว้
3. Manager (Junior Management)
หัวหน้าระดับปฏิบัติการ เช่น Front Manager, Human Resource Manager, Restaurant Manager เป็นต้น โดยผู้บริหารระดับนี้จะจะมีอำนาจการตัดสินใจจัดการงานในส่วนที่ต้องรับผิดชอบรวมไปถึงผู้ใต้บังคับบัญชาให้เกิดความถูกต้อง เรียบร้อย ตามที่ทางโรงแรมได้กำหนดไว้ และสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีภายในแผนก
4. Supervisor
จะเป็นระดับที่ช่วยแจกแจงงานจากระดับ Manager และตรวจสอบผลการปฏิบัติงานของพนักงาน ให้เป็นไปตามความถูกต้อง ตลอดจนให้คำปรึกษาแนะนำวิธีการปฏิบัติงานใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการทำงานของพนักงานในแผนก
5. Staff
หรือเรียกง่ายๆก็คือ พนักงานทั่วไป มีหน้าที่ปฏิบัติงานตามหน้าที่ขอบเขตงานที่ตนรับผิดชอบ หรือรับคำสั่งจากหัวหน้างาน หากเกิดข้อผิดพลาดก็ต้องรีบแก้ไขปรับปรุงหรือข้อคำปรึกษาจากหัวหน้างานในฝ่ายตน
ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีผลตอบแทนและสวัสดิการแตกต่างกันไป หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหาโอกาสความมั่นคงสายงานโรงแรมในภูเก็ต และสวัสดิการดีๆ มาร่วมเป็นครอบครัวเดียวกับเราสิ! Thavorn Hotels & Resorts, Phuket คือคำตอบ ตำแหน่งงานมากมายรอคุณอยู่!